การจัดการความรู้ในองค์กร ตอนที่ 1
การจัดการความรู้ในองค์กร ตอนที่ 2
การจัดการความรู้ในองค์กร ตอนที่ 3
การจัดการความรู้ในองค์กร ตอนที่ 4
การจัดการความรู้ในองค์กร ตอนที่ 5
การจัดการความรู้ในองค์กร ตอนที่ 6
การจัดการความรู้ในองค์กร ตอนที่ 7
การจัดการความรู้ในองค์กร ตอนที่ 8
วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ภาพกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
สวัสดีค่ะ..วันนี้ขอนำภาพบรรยากาศการจัดกิจกรรมมาฝากค่ะ...การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การเตรียมความพร้อมเพื่อการประเมินภายนอกรอบสาม ของมหาวิทยาลัยศิลปากร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้คณะวิชาและสถาบันเครือข่ายประกันคุณภาพการศึกษา ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินภายนอกรอบสาม และเรียนรู้ปัญหา อุปสรรคและแนวปฏิบัติที่ดีด้านการประกันคุณภาพการศึกษา และการเชื่อมโยงระหว่างการประกันคุณภาพการภายในและภายนอก มี รศ.ดร.เรณู เวชรัชต์พิมล รองอธิการบดี (ประกันคุณภาพการศึกษา) เป็นวิทยากร และมีสถาบันจากภายนอก 7 สถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฎสมเด็จเ จ้าพระยา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้า คุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกริก มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และวิทยาลัยทองสุข
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
Mind Map กับการศึกษา และการจัดการความรู้
ความเป็นมาของ Mind Map® ได้บัญญัติขึ้นมาเมื่อ พ.ศ. 2517 โดย คุณโทนี บูซาน ซึ่ง Mind Map® นี้เป็น Graphic Organizers รูปแบบหนึ่งที่ทำงานตามธรรมชาติความคิดของเรา เป็นเทคนิคเชิงกราฟฟิคที่ทรงพลังเสมือนกุญแจสารพัดประโยชน์ที่จะเปิดสมองให้ ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ เพราะเป็นการใช้ความสามารถของสมองทั้ง 2 ซีก คือ ซ้ายและขวาให้มีกระบวนการคิดที่เชื่อมโยงกัน โดยลักษณะสำคัญของ Mind Map® มี 4 ประการ คือ
- แผนภาพใยแมงมุม Spider Map เริ่มจากตรงกลางแผนที่ด้วยประเด็นสำคัญของเรื่องหรือปัจจัยร่วมแล้วแตกรัศมีออกไปรอบๆ
- แผนภูมิ ตามลำดับชั้น Hierarchy Map นำเสนอข้อมูลที่มีลำดับความสำคัญหรือลำดับชั้นสูงต่ำ
- Flow Chart นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่ต่อเนื่องเป็นเส้นตรง หรือกระบวนการ
- System Map นำเสนอข้อมูลที่เหมือน Flow Chart แต่เพิ่ม Input และ Outputs
- picture / Landscape Map นำเสนอข้อมูลที่เป็นภูมิทัศน์ ทัศนียภาพ หรือ ภาพ
- Multidimentional / 3-D Concept Map นำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนมากๆ
- Mandala / Mandala Concept Map นำเสนอข้อมูลที่เป็นรูปทรงเรขาคณิต
ข้อเหมือนกันของ Mind Map® กับ Concept Map
- ใช้คำสั้นๆและเส้นในการจดบันทึกความคิดหรือข้อมูลแต่ละคำก็แตกออกไปได้รอบทิศทาง
ข้อแตกต่าง Mind Map® กับ Concept Map
- จุดเริ่มต้น / ใจกลาง Concept Map อาจมีข้อมูลความคิดรวบยอดหรือกระบวนทัศน์ มากกว่าหนึ่งประเด็นได้ แต่ Mind Map® มีแก่นแกนได้ประการเดียวเท่านั้น
- สี Concept Map นั้นไม่สนใจ แต่ Mind Map® จะถือว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญมาก
- Concept Map ล้อมวงตีกรอบแต่ Mind Map® ไม่ให้ล้อมกรอบ
- Concept Map มักใช้เส้นตรง แต่ Mind Map® เส้นจะเน้นที่โค้งกับความยาวของภาพ
- Mind Map® เน้นการใช้คำมูล
แผนที่ความคิดมีความสำคัญต่อนักเรียน นักศึกษาเพราะมันเปิดโอกาสและช่วยส่งเสริมให้
- วิเคราะห์และโยงเชื่อม
- เป็นนักคิดที่มีคุณภาพ
- เรียนรู้อย่างมีความหมาย
- คิดอย่างยืดหยุ่นได้
- สื่อสารผู้อื่นได้อย่างชัดเจนและดีขึ้น
- รับผิดชอบและเป็นฝ่ายรุกต่อการเรียนรู้
- ตีความและตีกรอบองค์ความรู้ได้
- แสวงหาความหมาย ไล่ล่าหาโครงสร้างของโลกรอบตัว
- ขยายความ มองออกไปนอกห้องเรียน นอกสถาบันการศึกษา
- จัดการกับปัญหาได้อย่างเป็นระบบแต่ยืดหยุ่น
- เข้าใจและมีทัศนะที่เป็นบวกต่อข้อมูลและข้อโต้แย้ง
- ตัดสินใจอย่างผู้ที่มองรอบด้าน
- เห็นความคิดของตนเอง และพร้อมที่จะแสดงความคิดเห็น
- เป็นการเรียนรู้แบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง
วิธีการนำเข้าสู่การเรียนรู้ทักษะการเรียน Mind Map®
ก็คือพยายามเชื่อมโยงความคิดรวบยอดหรือกระบวนทัศน์ของการเรียน Mind Map®
กับประสบการณ์ตรงในเรื่องแผนที่ของผู้เรียนเอง จากนั้นเริ่มนำเข้าสู่ประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้
- การคัดเลือกข้อมูล
- คำกุญแจ/ประเด็นหลัก/สัญลักษณ์
- การจัดระบบเชิงภาพ
- ประโยชน์ใช้สอยของแผนที่
- ลงมือเขียนแผนที่
ขั้นตอนในการเขียน Mind Map® 7 ขั้นตอน
1.วางกระดาษเปล่าตามแนวนอน เริ่มจากกลางหน้ากระดาษ เพราะมันจะช่วยให้มีอิสระในการคิดแผ่ขยายได้ตามธรรมชาติ
2.ใช้รูปภาพ หรือสัญลักษณ์แทนประเด็นหลัก ที่ศูนย์กลางซึ่งเรียกว่า “แก่นแกน”
3.ใช้สีสันให้ทั่วทั้งแผ่น
4.เชื่องโยง “กิ่งแก้ว” เข้ากับ “แก่นแกน” ที่อยู่ตรงกลาง และเชื่อม “กิ่งแก้ว” ออกไปเป็นขั้นที่ 2 และ 3
5.วาดกิ่งที่มีสัญลักษณ์เป็นเส้นโค้ง
6.ใช้คำมูล เพียงคำเดียวบนแต่ละกิ่ง
7.ใช้รูปภาพ ประกอบให้ทั่วทั้งแผ่น Mind Map® เพราะภาพแทนคำได้เท่ากับคำพันคำ
ข้อแนะนำในการทำ Mind Map®
1. แก่นแกน ควรมีขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่ หรือ เล็กเกินไป
2. ห้ามล้อมแก่นแกน
3.เส้นของกิ่งแก้วต้องโยงเชื่อมต่อกับแก่นแกนเสมอ
4.คำยิ่งสั้นยิ่งดี ควรเป็นคำมูล
5.เส้นต้องมีความยาวสัมพันธ์กับคำหรือภาพ
6.กิ่งก้อยที่แตกแขนงออกมากิ่งแก้วควรมีสีเดียวกันทั้งแขนง
7.ต้องแตกกิ่ง ณ จุดสุดท้ายของเส้นเสมอ
8.อย่าเขียนกลับหัวตัวอักษร/อย่าหมุนกระดาษ
9.ไม่ควรใช้วลีหรือประโยค
10.เส้นต้องเชื่องโยงกัน อย่าเขียนเส้นให้ขาดหรือแหว่ง
11.ห้ามล้อมวงกลมที่คำหรือภาพ
12.ห้ามเขียนคำ/ภาพปิดท้ายเส้น
13.ห้ามเขียนคำ/ภาพทั้งบนและใต้กิ่งเดียวกัน
การนำ Mind Map® มาใช้ในการเรียนการสอน
- ช่วยให้นักเรียนสนใจเรียน
- รู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องธรรมชาติ สร้างสรรค์สนุกสนาน
- ไม่ซ้ำซาก ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ง่าย
- นักเรียนรับรู้และเรียนรู้ได้ดีขึ้น
- นักเรียนเข้าใจได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
- กระดาษลดลง
- ลดปัญหาการนำเสนอความคิดที่ยาก
ผล การวิจัยแสดงให้เห็นศักยภาพการใช้แผนที่ความคิดและวาดภาพประกอบการ สัมภาษณ์ ช่วยให้การบันทึกข้อมูลมีประสิทธิภาพ เกิดการสื่อสารได้สองทาง
Mind Map® กับการจัดการความรู้ และ ประสบการณ์การนำ Mind Map® มาใช้ในชุมชน Mind Map® สามารถเป็นเครื่องมือในการระดมสมอง ระดมความคิดของชาวบ้านได้มีการพัฒนาความคิดและเป็นเครื่องมือที่นำมาพัฒนา ความคิดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและทำให้เกิดความรู้มากมายมหาศาล
Mind Map® กับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ.2548
โดยมหาวิทยาลัย ได้นำเอา Mind Map® และโปรแกรม MindManager มาใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของโครงการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยที่ทุกหน่วยงานของมหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการโดยวิธีการสมัครใจ จนประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติโครงการ เช่น การวางแผนพัฒนาผลการปฏิบัติงาน การบริหารโครงการ การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาฝึกอบรม งานบริหารงานบุคคล และการติดตามโครงการต่างๆของมหาวิทยาลัย
ที่มา : http://www.km.nida.ac.th/home/index.php?option=com_content&view=article&id=100:mind-map&catid=51:km-around-the-world&Itemid=93
เครื่องมือนำเสนอด้วยภาพที่น่าสนใจ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภท ตามการนำเสนอข้อมูล
1.หัวเรื่องที่เป็นข้อใหญ่ใจความได้รับการกลั่นกรองจนตกผลึกเป็นภาพ “แก่นแกน” ตรงกลาง
2.ประเด็นสำคัญกระจายเป็นรัศมีออกมาเป็น “ก้าน” หรือ กิ่งแก้ว แตกแขนงออกจาก “แก่นแกน”
3.กิ่งที่แตกแขนงออกมาแต่ละกิ่งรองรับ คำไข/ภาพ โดยมีเส้นเชื่อมเป็นรายละเอียดออกมารอบๆ
4.กิ่งก้านต่างๆต้องเชื่อมต่อยึดโยงกันดุจกิ่งไม้หรือรากไม้
Mind Map® เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเครื่องมือในการบันทึกข้อมูลและความคิดเป็นภาพ ซึ่งเครื่องมือนำเสนอด้วยภาพ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
- ดาว / ใยแมงมุม / เครือข่าย
เหมาะสำหรับการอธิบาย คำจำกัดความ คุณสมบัติ คุณลักษณะ
- แผนภูมิ / ตาราง / แถวอันดับ
เหมาะสำหรับแสดงคุณสมบัติ คุณลักษณะเปรียบเทียบ การประเมิน
- ต้นไม้ / แผนที่
เหมาะสำหรับการ จำแนก ตารางชาติตระกูล สายพันธ์
- ลูกโซ่
เหมาะสำหรับกระบวนการเหตุและผล ที่มาที่ไป ลำดับเหตุการณ์ในอดีต
- ภาพร่าง
เหมาะสำหรับโครงสร้างทางกายภาพ ทำเลที่ตั้ง สถานที่ รูปลักษณ์
- แผนภาพใยแมงมุม Spider Map เริ่มจากตรงกลางแผนที่ด้วยประเด็นสำคัญของเรื่องหรือปัจจัยร่วมแล้วแตกรัศมีออกไปรอบๆ
- แผนภูมิ ตามลำดับชั้น Hierarchy Map นำเสนอข้อมูลที่มีลำดับความสำคัญหรือลำดับชั้นสูงต่ำ
- Flow Chart นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่ต่อเนื่องเป็นเส้นตรง หรือกระบวนการ
- System Map นำเสนอข้อมูลที่เหมือน Flow Chart แต่เพิ่ม Input และ Outputs
- picture / Landscape Map นำเสนอข้อมูลที่เป็นภูมิทัศน์ ทัศนียภาพ หรือ ภาพ
- Multidimentional / 3-D Concept Map นำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนมากๆ
- Mandala / Mandala Concept Map นำเสนอข้อมูลที่เป็นรูปทรงเรขาคณิต
ข้อเหมือนกันของ Mind Map® กับ Concept Map
- ใช้คำสั้นๆและเส้นในการจดบันทึกความคิดหรือข้อมูลแต่ละคำก็แตกออกไปได้รอบทิศทาง
ข้อแตกต่าง Mind Map® กับ Concept Map
- จุดเริ่มต้น / ใจกลาง Concept Map อาจมีข้อมูลความคิดรวบยอดหรือกระบวนทัศน์ มากกว่าหนึ่งประเด็นได้ แต่ Mind Map® มีแก่นแกนได้ประการเดียวเท่านั้น
- สี Concept Map นั้นไม่สนใจ แต่ Mind Map® จะถือว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญมาก
- Concept Map ล้อมวงตีกรอบแต่ Mind Map® ไม่ให้ล้อมกรอบ
- Concept Map มักใช้เส้นตรง แต่ Mind Map® เส้นจะเน้นที่โค้งกับความยาวของภาพ
- Mind Map® เน้นการใช้คำมูล
แผนที่ความคิดมีความสำคัญต่อนักเรียน นักศึกษาเพราะมันเปิดโอกาสและช่วยส่งเสริมให้
- วิเคราะห์และโยงเชื่อม
- เป็นนักคิดที่มีคุณภาพ
- เรียนรู้อย่างมีความหมาย
- คิดอย่างยืดหยุ่นได้
- สื่อสารผู้อื่นได้อย่างชัดเจนและดีขึ้น
- รับผิดชอบและเป็นฝ่ายรุกต่อการเรียนรู้
- ตีความและตีกรอบองค์ความรู้ได้
- แสวงหาความหมาย ไล่ล่าหาโครงสร้างของโลกรอบตัว
- ขยายความ มองออกไปนอกห้องเรียน นอกสถาบันการศึกษา
- จัดการกับปัญหาได้อย่างเป็นระบบแต่ยืดหยุ่น
- เข้าใจและมีทัศนะที่เป็นบวกต่อข้อมูลและข้อโต้แย้ง
- ตัดสินใจอย่างผู้ที่มองรอบด้าน
- เห็นความคิดของตนเอง และพร้อมที่จะแสดงความคิดเห็น
- เป็นการเรียนรู้แบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง
วิธีการนำเข้าสู่การเรียนรู้ทักษะการเรียน Mind Map®
ก็คือพยายามเชื่อมโยงความคิดรวบยอดหรือกระบวนทัศน์ของการเรียน Mind Map®
กับประสบการณ์ตรงในเรื่องแผนที่ของผู้เรียนเอง จากนั้นเริ่มนำเข้าสู่ประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้
- การคัดเลือกข้อมูล
- คำกุญแจ/ประเด็นหลัก/สัญลักษณ์
- การจัดระบบเชิงภาพ
- ประโยชน์ใช้สอยของแผนที่
- ลงมือเขียนแผนที่
ขั้นตอนในการเขียน Mind Map® 7 ขั้นตอน
1.วางกระดาษเปล่าตามแนวนอน เริ่มจากกลางหน้ากระดาษ เพราะมันจะช่วยให้มีอิสระในการคิดแผ่ขยายได้ตามธรรมชาติ
2.ใช้รูปภาพ หรือสัญลักษณ์แทนประเด็นหลัก ที่ศูนย์กลางซึ่งเรียกว่า “แก่นแกน”
3.ใช้สีสันให้ทั่วทั้งแผ่น
4.เชื่องโยง “กิ่งแก้ว” เข้ากับ “แก่นแกน” ที่อยู่ตรงกลาง และเชื่อม “กิ่งแก้ว” ออกไปเป็นขั้นที่ 2 และ 3
5.วาดกิ่งที่มีสัญลักษณ์เป็นเส้นโค้ง
6.ใช้คำมูล เพียงคำเดียวบนแต่ละกิ่ง
7.ใช้รูปภาพ ประกอบให้ทั่วทั้งแผ่น Mind Map® เพราะภาพแทนคำได้เท่ากับคำพันคำ
ข้อแนะนำในการทำ Mind Map®
1. แก่นแกน ควรมีขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่ หรือ เล็กเกินไป
2. ห้ามล้อมแก่นแกน
3.เส้นของกิ่งแก้วต้องโยงเชื่อมต่อกับแก่นแกนเสมอ
4.คำยิ่งสั้นยิ่งดี ควรเป็นคำมูล
5.เส้นต้องมีความยาวสัมพันธ์กับคำหรือภาพ
6.กิ่งก้อยที่แตกแขนงออกมากิ่งแก้วควรมีสีเดียวกันทั้งแขนง
7.ต้องแตกกิ่ง ณ จุดสุดท้ายของเส้นเสมอ
8.อย่าเขียนกลับหัวตัวอักษร/อย่าหมุนกระดาษ
9.ไม่ควรใช้วลีหรือประโยค
10.เส้นต้องเชื่องโยงกัน อย่าเขียนเส้นให้ขาดหรือแหว่ง
11.ห้ามล้อมวงกลมที่คำหรือภาพ
12.ห้ามเขียนคำ/ภาพปิดท้ายเส้น
13.ห้ามเขียนคำ/ภาพทั้งบนและใต้กิ่งเดียวกัน
การนำ Mind Map® มาใช้ในการเรียนการสอน
Mind Map® ช่วยให้การเรียนการสอนง่ายและสนุกสนานได้หลายวิธี เช่นข้อดีของการใช้ Mind Map® ช่วยสอน
1.ใช้เตรียมการสอน เพราะจะทำให้สามารถสอนแบบธรรมชาติและเป็นระบบ
2.วางแผนรายปี ช่วยให้ครูเห็นแผนการสอนตอลดทั้งปีการศึกษา
3.วางแผนรายภาคเรียน ช่วยให้ครูรู้ว่าภาคนี้จะสอนอะไรบ้าง
4.วางแผนรายวัน ลงรายละเอียดทบทวนบทเรียนเดิมที่จะสอนนักเรียน
5.การสอน เป็นการใช้ขณะสอนนักเรียนในชั้นเรียน
6.การสอบของนักเรียน เป็นการวัดความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจของนักเรียนได้ดี
7.โครงการ/โครงงาน ใช้ทำกิจกรรม หรือ นิทรรศการ หรือ วางแผนงาน
- ช่วยให้นักเรียนสนใจเรียน
- รู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องธรรมชาติ สร้างสรรค์สนุกสนาน
- ไม่ซ้ำซาก ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ง่าย
- นักเรียนรับรู้และเรียนรู้ได้ดีขึ้น
- นักเรียนเข้าใจได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
- กระดาษลดลง
- ลดปัญหาการนำเสนอความคิดที่ยาก
ผล การวิจัยแสดงให้เห็นศักยภาพการใช้แผนที่ความคิดและวาดภาพประกอบการ สัมภาษณ์ ช่วยให้การบันทึกข้อมูลมีประสิทธิภาพ เกิดการสื่อสารได้สองทาง
Mind Map® กับการจัดการความรู้ และ ประสบการณ์การนำ Mind Map® มาใช้ในชุมชน Mind Map® สามารถเป็นเครื่องมือในการระดมสมอง ระดมความคิดของชาวบ้านได้มีการพัฒนาความคิดและเป็นเครื่องมือที่นำมาพัฒนา ความคิดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและทำให้เกิดความรู้มากมายมหาศาล
Mind Map® กับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ.2548
โดยมหาวิทยาลัย ได้นำเอา Mind Map® และโปรแกรม MindManager มาใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของโครงการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยที่ทุกหน่วยงานของมหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการโดยวิธีการสมัครใจ จนประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติโครงการ เช่น การวางแผนพัฒนาผลการปฏิบัติงาน การบริหารโครงการ การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาฝึกอบรม งานบริหารงานบุคคล และการติดตามโครงการต่างๆของมหาวิทยาลัย
ที่มา : http://www.km.nida.ac.th/home/index.php?option=com_content&view=article&id=100:mind-map&catid=51:km-around-the-world&Itemid=93
วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
นักวิจัยจุฬาคว้าเหรียญทองเกียรติยศ ในเวทีสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกที่เจนีวา
ทีมวิจัยจุฬาแปรรูปเปลือกหอยแมลงภู่ เป็นวัตถุดิบคุณภาพสูงสำหรับภาคอุตสาหกรรม คว้ารางวัลเหรียญทองเกียรติยศ จากเวทีสิ่งประดิษฐ์โลกที่สวิส
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้นำนักประดิษฐ์และผลงานคิดค้นจาก 6 หน่วยงาน จำนวน 12 ผลงาน เข้าร่วมแสดงนิทรรศการในงานครบรอบ 40 ปีของการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งเป็นเวทีสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกจัดโดยรัฐบาลสวิสและองค์การทรัพย์สินทาง ปัญญาแห่งโลก หรือ ไวโป้ โดยมีผลงานประดิษฐ์จาก 46 ประเทศ เข้าร่วมแสดงนิทรรศการ จำนวน 648 ผลงาน
ทั้งนี้จากการเข้าร่วมแสดงผลงานดังกล่าว ผลงานประดิษฐ์ไทยได้รับรางวัลถึง 11 ผลงาน โดยผลงานเรื่อง “เทคโนโลยีการแปรรูปเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมอาหารทะเลให้ เป็นวัตถุดิบของภาคอุตสาหกรรม” ของ รศ.ดร.สนอง เอกสิทธิ์ และนางสาวฐิลักษกรฐ์ จิรพิสิฐกุล และทีมวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คว้ารางวัลเหรียญทองเกียรติยศในกลุ่ม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน นอกจากนี้ผลงานดังกล่าวยังได้รางวัลพิเศษจาก สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย
ด้านรศ.ดร.สนอง เอกสิทธิ์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยว่า ผลงานดังกล่าวทีมวิจัยได้พัฒนาขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการนำเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมอาหารทะเลมาแปรรูปด้วย กระบวนการทางเคมีให้เป็นวัตถุดิบคุณภาพสูงในภาคอุตสาหกรรม เช่น เป็นรงควัตถุ ที่มีประกายมุกใช้แทนวัสดุนำเข้าจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง การทำผงแคลเซียมคาร์บอเนต ที่สามารถประยุกต์ใช้เป็นทรายเทียมหรือสารเติมแต่งในการเคลือบผิว หรือการทำเป็นวัสดุกักเก็บสารเพื่อยืดระยะเวลาการทำงาน เช่นเก็บกักปุ๋ยได้ ทั้งนี้กระบวนการผลิตใช้เทคโนโลยีที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เครื่องมือราคาแพง ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำแต่เพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งเหลือทิ้งได้อย่างมหาศาล
นอกจากนี้ยังมีผลงานที่ได้รับรางวัลจากเวทีดังกล่าวอีกหลายผลงาน อาทิ “แผ่นปิดแผลนาโนไบโอเซลลูโลสเคลือบคริสตัลเงินนาโนสีฟ้า” ของบริษัท โนวาเทค เฮลธ์แคร์ จำกัด “กระเป๋าผ้าเนกไท” จากวิทยาลัยสารพัดช่างสี่พระยา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา “ระบบสนทนาอัตโนมัติเพื่อพัฒนาทักษะการสนทนาภาษาอังกฤษ” จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ชุดตรวจวินิจฉัยเชื้อวัณโรคจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “ชุดถอดประกอบต้นกำลังสำหรับรถเข็นคนพิการ” จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ “อุปกรณ์เสริมสำหรับบันทึกลายนิ้วมือด้วยสมาร์ทโฟน” จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รายการอ้างอิง :
“นักวิจัยจุฬาคว้าเหรียญทองเกียรติยศ ในเวทีสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกที่เจนีวา”. เดลินิวส์. วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2555.
http://www.stks.or.th/blog/?p=14016
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้นำนักประดิษฐ์และผลงานคิดค้นจาก 6 หน่วยงาน จำนวน 12 ผลงาน เข้าร่วมแสดงนิทรรศการในงานครบรอบ 40 ปีของการแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งเป็นเวทีสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกจัดโดยรัฐบาลสวิสและองค์การทรัพย์สินทาง ปัญญาแห่งโลก หรือ ไวโป้ โดยมีผลงานประดิษฐ์จาก 46 ประเทศ เข้าร่วมแสดงนิทรรศการ จำนวน 648 ผลงาน
ทั้งนี้จากการเข้าร่วมแสดงผลงานดังกล่าว ผลงานประดิษฐ์ไทยได้รับรางวัลถึง 11 ผลงาน โดยผลงานเรื่อง “เทคโนโลยีการแปรรูปเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมอาหารทะเลให้ เป็นวัตถุดิบของภาคอุตสาหกรรม” ของ รศ.ดร.สนอง เอกสิทธิ์ และนางสาวฐิลักษกรฐ์ จิรพิสิฐกุล และทีมวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คว้ารางวัลเหรียญทองเกียรติยศในกลุ่ม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน นอกจากนี้ผลงานดังกล่าวยังได้รางวัลพิเศษจาก สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย
ด้านรศ.ดร.สนอง เอกสิทธิ์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยว่า ผลงานดังกล่าวทีมวิจัยได้พัฒนาขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการนำเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมอาหารทะเลมาแปรรูปด้วย กระบวนการทางเคมีให้เป็นวัตถุดิบคุณภาพสูงในภาคอุตสาหกรรม เช่น เป็นรงควัตถุ ที่มีประกายมุกใช้แทนวัสดุนำเข้าจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง การทำผงแคลเซียมคาร์บอเนต ที่สามารถประยุกต์ใช้เป็นทรายเทียมหรือสารเติมแต่งในการเคลือบผิว หรือการทำเป็นวัสดุกักเก็บสารเพื่อยืดระยะเวลาการทำงาน เช่นเก็บกักปุ๋ยได้ ทั้งนี้กระบวนการผลิตใช้เทคโนโลยีที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เครื่องมือราคาแพง ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำแต่เพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งเหลือทิ้งได้อย่างมหาศาล
นอกจากนี้ยังมีผลงานที่ได้รับรางวัลจากเวทีดังกล่าวอีกหลายผลงาน อาทิ “แผ่นปิดแผลนาโนไบโอเซลลูโลสเคลือบคริสตัลเงินนาโนสีฟ้า” ของบริษัท โนวาเทค เฮลธ์แคร์ จำกัด “กระเป๋าผ้าเนกไท” จากวิทยาลัยสารพัดช่างสี่พระยา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา “ระบบสนทนาอัตโนมัติเพื่อพัฒนาทักษะการสนทนาภาษาอังกฤษ” จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ชุดตรวจวินิจฉัยเชื้อวัณโรคจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “ชุดถอดประกอบต้นกำลังสำหรับรถเข็นคนพิการ” จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ “อุปกรณ์เสริมสำหรับบันทึกลายนิ้วมือด้วยสมาร์ทโฟน” จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รายการอ้างอิง :
“นักวิจัยจุฬาคว้าเหรียญทองเกียรติยศ ในเวทีสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกที่เจนีวา”. เดลินิวส์. วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2555.
http://www.stks.or.th/blog/?p=14016
วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดประชุมวิชาการนานาชาติ 4th International Science, Social Science, Engineering and Energy Conference 2012 ระหว่างวันที่ 11-14 ธันวาคม 2555 ณ โรงแรมโกลเด้นบีชชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในศาสตร์ทางวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กำหนดส่งบทคัดย่อ : ตั้งแต่บัดนี้ - 31 พฤษภาคม 2555
http://www2.kmutt.ac.th/news/newsdetail.aspx?ref=201203000675#.T6vyIthrzcE.facebook
กำหนดส่งบทคัดย่อ : ตั้งแต่บัดนี้ - 31 พฤษภาคม 2555
http://www2.kmutt.ac.th/news/newsdetail.aspx?ref=201203000675#.T6vyIthrzcE.facebook
วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
การมอบรางวัล Silpakorn KM DAY 30 เม.ย. 2555
รางวัลยอดเยี่ยม โดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เรื่อง โครงการบริการวิชาการสู่ชมชน ครั้งที่ 1 : แนะนำแนวทางฟื้นฟูบ้านหลังน้ำลด |
รางวัลดีเด่นอันดับ 1 โดย สำนักหอสมุดกลาง หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ เรื่อง การใช้กระบวนการจัดการความรู้ในการพัฒนาตัวชี้วัดผลงานหลักรายบุคคล |
รางวัลชมเชยอันดับ 1 โดย คณะวิทยาการจัดการ เรื่อง การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาการทำงานเป็นทีมของบุคลากรสายสนับสนุน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร |
รางวัลชมเชยอันดับ 2 โดยคณะศึกษาศาสตร์
เรื่อง โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการสร้างสรรค์งานวิจัย
รางวัลยอดนิยม (popular vote) โดย สำนักหอสมุดกลาง หอสมุดสาขา วังท่าพระ เรื่อง แนวปฏิบัติที่ดี : การจัดการคอลเลคชั่นสูจิบัตรนิทรรศการศิลปะ |
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประธานคณะกรรมการฯ มอบเกียรติบัตรแก่ทุกคณะวิชา/หน่วยงานที่นำเสนอผลงานการจัดการความรู้ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประธานคณะกรรมการฯ กล่าวปิดงาน
ฝ่ายจัดงาน ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ ทำให้โครงการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ โอกาสนี้
การนำเสนอผลงานการจัดการความรู้ด้วยวาจา 5 คณะวิชา : Silpakorn KM DAY ครั้งที่ 1/2555 วันจันทร์ที่ 30 เม.ย. 2555
คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เรื่อง ทำอย่างไรจึงจะได้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ก่อนอายุ 40 ปี โดย อาจารย์สินธุวัฒน์ ฤทธิธรรม (รองคณบดีฝ่ายประกันคุณภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสากรรม) |
คณะวิทยาศาสตร์ เรื่อง การจัดการความรู้เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ในห้องบรรยาย โดย รองศาสตราจารย์วัฒนา เกาศัลย์ (รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะวิทยาศาสตร์) |
คณะเภสัชศาสตร์ เรื่อง การใช้กระบวนการจัดการความรู้ในการพัฒนางานวิจัยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดย รองศาสตราจารย์สินธพ โฉมยา (รองคณบดีฝ่ายจัดการทรัพยากรบุคคล คณะเภสัชศาสตร์) |
วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ภาพกิจกรรมวันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ : Silpakorn KM DAY ครั้งที่ 1 วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2555 ณ หอศิลป์บรมราชกุมารี อาคารศูนย์ปฏิบัติการทัศนศิลป์สิรินธร มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์
สถานที่จัดงาน |
ลงทะเบียน |
ผู้ดำเนินรายการ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภูธฤทธิ์ วิทยาพัฒนานุรักษ์ รักษาศิริ (รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร) |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นรงค์ ฉิมพาลี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานการจัดการความรู้ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าววัตถุประสงค์ |
อาจารย์ ดร.อุทัย ดุลยเกษม อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวเปิดงาน |
ท่านอธิการบดีเปิดงานวันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ : Silpakorn KM DAY ครั้งที่ 1/2555 |
ท่านอธิการบดีชมผลงานการจัดการความรู้ของคณะวิชา/หน่วยงาน |
การแสดงดนตรีจากคณะดุริยางคศาสตร์ |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
บทความแนะนำ
โครงการสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่และกำลังคนที่มีสมรรถนะเพื่อตอบโจทย์ภาคการผลิตตามนโยบายการปฏิรูปอุดมศึกษาไทย
http://www.mua.go.th/users/bhes/pdf/%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B...
-
สวัสดีค่ะ... วันนี้แอดมินขอนำเสนอความหมายของ EdPEx อีกครั้ง ....ที่ก่อนหน้านี้ได้นำเสนอ "คำถาม 15 ข้อที่คาใจ" เกี่ยวกับ EdPEx...
-
ฟอนต์อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยศิลปากร เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี มหาวิทยาลัยศิลปากร ดาวน์โหลดกันได้เลยค่ะ http://www.f0nt.com/release/silpakor...
-
การสอนงาน หมายถึง การที่หัวหน้างานได้สอนหรือแนะนำให้ลูกน้อง ได้เรียนรู้งาน ที่ได้รับ มอบหมาย มีวัตถุประสงค์และข้อปฏิบัติอย่างไร จึงจะบรรล...