วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รมว.ศธ. มอบนโยบาย กกอ.ชุดใหม่

ในการประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา ครั้งที่ 6/2556 วันที่ 23 สิงหาคม 2556 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการการอุดมศึกษาชุดใหม่ ซึ่งมีรศ.คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ เป็นประธาน ในโอกาสนี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เข้าร่วมประชุมและมอบนโยบายด้านการอุดมศึกษา พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะกรรมการ ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์วิจิตร ศรีสอ้าน เพื่อที่รัฐบาลและ กกอ. จะได้ขับเคลื่อน ผลักดัน ให้เกิดการพัฒนาคุณภาพอุมดศึกษาของประเทศร่วมกัน
     
       โดยได้มอบนโยบายด้านการอุดมศึกษาให้กับคณะกรรมการการอุดมศึกษาชุดใหม่ ให้ผลิตบัณฑิตที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ เน้นการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน มากกว่าการขยายการจัดการศึกษาในเชิงปริมาณ พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพอุดมศึกษาให้สูงขึ้น โดยสนับสนุนให้มีการจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งจะต้องมีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับทั้งจากประชาคมอุดมศึกษาและสังคม พร้อมทั้งการส่งเสริมการวิจัย เพื่อพัฒนาสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก (World Class University) และผลักดันให้มหาวิทยาลัยไทยติดอันดับของนานาชาติให้มากขึ้น  และพัฒนากองทุนเงินกู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (ICL) เร่งรัดให้มีพระราชบัญญัติอุดมศึกษา และพระราชบัญญัติวิทยาลัยชุมชน ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว และพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษานานาชาติสำหรับภูมิภาคอาเซียน สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศมาเปิดดำเนินการในประเทศไทยภายใต้กติกาที่กำหนด พร้อมทั้งส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนจัดการศึกษา ตลอดจนพัฒนาระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา

         ทั้งนี้ คณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้มีการพิจารณา เห็นว่า การพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา ควรพัฒนาตามจุดแข็งและอัตลักษณืของแต่ละประเภทสถาบัน โดยอาจแบ่งกลุ่ม อาทิ 1) มหาวิทยาลัยวิจัยเพื่อสร้างบัณฑิตศึกษาและอาจารย์ที่เป็นนักวิจัยชั้นนำ  2) สายเทคโนโลยี เพื่อสร้างวิชาชีพ และแรงงานด้านอุตสาหกรรม  และ  3) ด้านการพัฒนาชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งสถาบันแต่ละประเทศสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศและความเป็นนานาชาติได้ตามกลุ่มของตนเอง และรัฐบาลควรส่งเสริมสถาบันที่มีศักยภาพความพร้อมไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในระดับโลก

          สำหรับการจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษา (Ranking) ควรมีระบบที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศในแต่ละประเภทสถาบัน และต้องเป็นระบบ Ranking ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษาของประเทศไทยด้วย 
  
          นอกจากนี้ สถาบันอุดมศึกษาใดที่มีศักยภาพ มีความสามารถที่จะติดอันอับโลกได้ ก็ควรจะส่งเสริมและสนับสนุน สำหรับสถาบันอุดมศึกษาอื่น ที่ยังไม่มีศักยภาพพียงพอที่จะติดอันดับโลกได้ ก็ให้ Ranking เพื่อการพัฒนา นอกจากนี้ อุดมศึกษาไทยควรมีระบบเทียบเคียงกับต่างประเทศเพื่อให้สถาบันและสังคม ได้รู้สถานภาพ จุดอ่อน จุดแข็ง และผลักดัน ให้เกิดการพัฒนา ให้ผลิตบัณฑิตที่เป็นคนเก่งและคนดี สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับอาเซียนและระดับสากล ในขณะที่ระบบการประเมินและการประกันคุณภาพ จะต้องมีเกณฑ์และดัชนีชี้วัดหลายตัวที่จะเข้าไปสนับสนุนในการประเมิน เพื่อที่จะช่วยส่งเสริมสถาบันให้พัฒนาตามจุดแข็ง และอัตลักษณ์ ทั้งนี้ควร ส่งเสิรม ให้เกิดความร่วมมือเป็นเครือข่ายระหว่งสถาบันทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนและยกระดับคุณภาพการศกึษาในภาพรวมของประเทศให้ดีขึ้น 

          คณะกรรมการการอุดมศึกษา ยังพิจารณาเห็นควรให้มีการปรับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ที่ปัจจุบันที่ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาในระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง อาทิ นักเรียน ไม่สนใจเรียนในห้องเรียน มุ่งแต่กวดวิชา การออกข้อสอบไม่ตรงกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่สถาบันอุดมศึกษาจะต้องเชื่อมโยงกับจุดแข็ง และอัตลักษณ์ของสถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้ได้คนที่มีศักยภาพ ความพร้อมที่ตรงตามความต้องเฉพาะทาง

ที่มา : อนุสารอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ปีที่ 39 ฉบับที่ 423 ประจำเดือนกันยายน 2556


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น